วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การต่อสู้ทางการเมืองเพิ่งเริ่มต้น

การต่อสู้ทางการเมืองเพิ่งเริ่มต้น

สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ปัจจัยหรือเงื่อนไขต่างๆที่จะนำมาซึ่งการเผชิญหน้าอย่างรุนแรงระหว่างรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช กับ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พ.ป.ป.) ได้ลดลงเพราะฝ่ายต่อต้าน พ.ป.ป.ได้ถอนเงื่อนไขทั้งในเรื่องการลาออกของรัฐมนตรีท่านหนึ่ง การถอนประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ในการต่อสู่ในทางการเมืองครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายรัฐบาลจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้ในครั้งนี้ เนื่องจากวัฒนธรรมทางการเมืองไทยหากผู้พ่ายแพ้ยอมรับผิดแล้วผู้ที่เป็นฝ่ายชนะมักจะไม่ยอมให้อภัยแต่จะใช้เป็นข้ออ้างในการซ้ำเติม หรือ แสดงความเหนือกว่า ซึ่งแตกต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่จะให้อภัยและเปิดทางให้ผู้ที่ทำผิดสามารถแก้ไขสิ่งที่ทำไปแล้วให้ถูกต้อง นั้นหมายความว่าความบาดหมางที่เกิดขึ้นจะได้รับการเยียวยาซึ่งเป็นผลจากการกระทำจากทั้งฝ่ายคือ ผู้แพและผู้ชนะ

จากการที่หลายฝ่ายมีความเห็นว่าหลังที่ภาพของ 2 บุรุษได้พบกันในงานศพมารดาของ ผบ.ทบ.จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาโดยมีรายงานข่าวจากสื่อมวลชนว่าอดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคไทยรักไทยได้กล่าวคำ ”ขอโทษ” แต่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าการต่อสู้จะจบสิ้นได้ง่าย เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีแนวร่วมในภาคต่างๆซึ่งมีวัตถุประสงค์แอบแฝงโดยเฉพาะเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ให้การสนับสนุน จึงอยากแก่การหันหน้าเข้าหากัน

การต่อสู้ทางการเมืองในขณะนี้ อาจกล่าวได้ว่ามีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน ประกอบด้วย การสร้างเครือข่ายในการต่อสู้ซึ่งขยายตัวมากขึ้นจากการช่องทางในการสื่อสารสมัยใหม่ เสนอข้อมูลเชิงลบโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยการขุดคุ้ยความไม่ดีไม่งามมาเสนอ หรือ เรียกร้องความสนใจในรูปแบบต่างๆต่อเป้าหมาย วัตถุประสงค์ คือ การสร้างแนวร่วมในการต่อสู้ ดังจะเห็นจากการแปรสภาพจาก เว็บไซด์ ไฮทักษิณ มาเป็น www. thai-grassroots.com ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ที่สำคัญ ซึ่งเป็นการ ขณะที่ฝ่าย พ.ป.ป.ได้ใช้วิธีการเดียวกันตอบโต้ฝ่ายรัฐบาล โดยใช้เครือข่ายทางการสื่อสารของเจ้าของ นสพ.ผู้จัดการ วิทยุ 97.75 astv.

การใช้เครื่องมือข้างต้นจึงทำให้ไม่สามารถประเมินกำลังของแต่ละฝ่ายได้เพราะเป็นการสร้างแนวร่วมในพื้นที่ส่วนตัว โดยผ่านเครือข่ายทางการสื่อสารสมัยใหม่ ดังนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้ จึงทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างลึกซึ้งในภาคสังคม ดังจะเห็นจากการเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายมีมือที่มองไม่เห็นให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือฝ่ายรัฐบาล ซึ่งมีความได้เปรียบทางด้านเมืองในแง่ของการสนับสนุนจากประชาชนในต่างจังหวัด กลุ่มอิทธิพลซึ่งเป็นหัวคะแนนของนักการเมือง นักการเมือง กลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีความใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งภายในและภายนอกประเทศ (มีต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น: