วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2551

วิกฤตการเมืองถึงขั้นวิกฤติ

วิกฤตการเมืองถึงขั้นวิกฤติ

การเคลื่อนไหวของกลุ่ม พ.ป.ป.เพื่อกดดันให้ นรม.หรือ ครม.ที่ถูกมองว่ารับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นรม.หมดสภาพความชอบธรรมที่มักอ้างว่ามาจากระบบประชาธิปไตยกำลังเข้าขั้นที่เรียกว่าอาจจะเกิดวิกฤตและอาจเกิดการเผชิญหน้าเพราะต่างฝ่ายไม่ยอมรับวิธีการสันติวิธี โดยจุดที่ต่างฝ่ายต่างทันกันคือ หากผู้ใดใช้ความรุนแรงก่อนย่อมเป็นฝ่ายได้เปรียบ รวมทั้งต่างฝ่ายโดยเฉพาะพันธมิตรกำลังสร้างวาทกรรมว่าการต่อสู้ครั้งนี้ เพื่อปกป้องแผ่นดินและราชวงศ์จักรี เพื่อแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้มีความชอบธรรมเพื่อขับไล่อธรรมออกจากอำนาจ ที่สำคัญจะทำให้ชนชั้นกลางใน กทม.ออกมาเคลื่อนไหวเพิ่มเติม

สำหรับเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในครั้งนี้ มาจาก พ.พ.ป.เองที่ได้ปลุกระดม เชิญชวนให้ร่วม สร้างการต่อสู้ครั้งสุดครั้งใหญ่ ในการขับไล่รัฐบาลตัวแทน ซึ่งยังได้รับการสนับสนุนจากลุ่มทุน ทหารที่เคยปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย.49 ประกอบกับฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะตัวนำ และ รัฐมนตรียังสร้างเงื่อนไขขึ้นเฉพาะหน้าหลายกรณี ที่สำคัญ ณ เวลานี้ถึงจุดสูงสุดของของการต่อสู้ที่ไม่สามารถรอมชอมกันได้แล้ว เนื่องจากข้อเรียกรองของพันธมิตรไม่อาจเป็นที่ยอมรับของผู้นำตัวจริงของพรรคพลังประชาชนได้ จึงเชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้ ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย

ผลกระทบในระยะแรกเพื่อให้รัฐบาลลาออก ซึ่งดูเหมือนว่าคงจะไม่มีการยอมรับจากรัฐบาลมากนัก เพราะมีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ตกอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องยอมรับข้อเรียกร้องอื่นตามมาด้วย รวมทั้งยอมหมายถึงการยอมแพ้ของกลุ่มต่อต้าน

ส่วนตัวแปรที่สำคัญว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะคือ ผบ.ทบ.ซึ่งในเวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเลือกอยู่ฝ่ายใด โดยต้องขึ้นอยู่กับแนวโน้มว่าฝ่ายใดจะมีโอกาสที่ชนะมากกว่านั้นหมายว่า ผบ.ทบ.จะเลือกทำหน้าที่เพื่ออะไร ทางหนึ่งเลือกที่จะช่วยเหลือเพื่อร่วมรุ่น อีกทางหนึ่งเลือกเพื่อทำลายระบบทักษิณ ซึ่งระบอบที่เทียบเท่าระบบที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลไม่ยอมลาออก โดยคาดว่าพันธมิตรเมื่อยึดทำเนียบไปแล้วนั้นหมายว่าศูนย์กลางการบริหารประเทศ อยู่ภายใต้การควบคุมของพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะยึดอย่างยืดเยื้อต่อไป แนวทางต่อสู้ครั้งนี้ จึงกดดันให้ฝ่ายรัฐบาล ต้องเหมือนกับรัฐบาลพลัดถิ่นที่ถูกขับไล่ออกจากประเทศ เพราะไม่มีความชอบธรรม

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วความกดดันจะเกิดขึ้นกับฝ่ายรัฐบาลหากขาดความอดทนและอดกลั้นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วใช้ความรุนแรงต่อพันธมิตร ย่อมหมายถึงฝ่ายทหารโดย ผบ.ทบ.จะมีการตัดสินใจว่าจะเลือกเข้าข้างฝ่ายใด เพราะจะเกิดความชอบธรรมในการใช้อำนาจมากขึ้น นั้นหมายความว่าแนวทางในการต่อสู้อาจยังไม่ถึงจุดจบ เพราะเป็นการหยุดสถานการณ์ ความรุนแรง และจากการต่อสู้ครั้งนี้เป็นสงครามกลางเมืองที่จะยืดเยื้อเพราะระดับผู้นำยังไม่ได้ถูกทำลายอย่างย่อยยับ และยังพร้อมที่จะเอาคืนเสมอ แต่หากมีการประกาศยอมรับและขอโทษกับสิ่งที่ทำไปของอดีตผู้นำ มีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์อาจจะดีขึ้นก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น: